นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายรัฐมนตรี เปิดเผยหลังเปิดตลาดนัดวายุภักษ์รักประชาชน ครั้งที่ 2 ว่า ได้มอบนโยบายให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เร่งทำแผนรับมือภัยแล้งอย่างเร่งด่วน เพราะปีนี้คาดว่าจะแล้งมากและกระทบต่อเกษตรกรเยอะ โดยเฉพาะเรื่องของเม็ดเงินจะต้องเตรียมไว้ไม่ให้ขาด รวมถึงหากมีโครงการไหนที่จำเป็นต้องใช้เงิน ก็ให้รีบประสานมาจะช่วยเสนอให้กระทวงการคลังพิจารณา
นอกจากนี้ ยังให้ ธ.ก.ส.เร่งร่วมมือกับกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เพื่อปฏิรูปการทำอุตสาหกรรมเกษตรยุคใหม่ โดยเฉพาะการรวมกลุ่มในการแปรรูปเพิ่มมูลค่า การคิดผลิตภัณฑ์ การส่งเสริมเรื่องการท่องเที่ยว พร้อมกับให้มีการดึงกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการ ธ.ก.ส. ด้วย เพราะต่อไปต้องทำงานร่วมกันในการพัฒนาอุตสาหกรรมเกษตรอย่างใกล้ชิด
“วันนี้ผมมาสั่งการให้ ธ.ก.ส. เตรียมการบ้านในการช่วยเหลือเกษตรกร เพื่อรอเสนอให้ รมว.คลังคนใหม่ เพราะเมื่อมาแล้วจะได้เดินหน้าต่อได้เลย เนื่องจากต่อจากนี้รัฐบาลวางเป้าหมายต้องการสร้างการเปลี่ยนแปลงในภาคเกษตร สร้างเศรษฐกิจชุมชนให้เข้มแข็ง นำสหกรณ์มาเป็นกลไกสำคัญขับเคลื่อนชุมชน โดย ธ.ก.ส.มีกลุ่มเป้าหมายเป็นเอสเอ็มอีหัวขบวนกว่า 1 หมื่นราย จะต้องเข้าไปช่วยเหลือกลุ่มนี้ก่อนให้มีการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าเป็นการหาสินค้าใหม่ ตลาดประชารัฐ นำเอกชนมารับออร์เดอร์ซื้อล่วงหน้า และดำเนินการช่วยเหลือให้ฟรี”
นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าวว่า ธ.ก.ส. กำหนดเป้าหมายนำเอสเอ็มอีภาคเกษตร ยกระดับให้เป็นกลุ่มหัวขบวนในชุมชน 10,273 ราย จากจำนวนเอสเอ็มอีทั้งหมด 49,362 ราย และยังมีสหกรณ์ที่จะปั้นให้เป็นหัวขบวน 290 แห่ง ขณะเดียวกันยังสั่งให้ธ.ก.ส.ทุกสาขาเร่งเตรียมพร้อมรับมือปัญหาภัยแล้งในปีนี้ และหามาตรการช่วยเหลือทั้งการขยายเวลาชำระหนี้ รวมถึงการจัดสินเชื่อเพื่อช่วยเสริมสภาพคล่องช่วยผู้ได้รับความเดือดร้อนจากภัยแล้ง
ที่มา: เดลินิวส์
https://www.dailynews.co.th/economic/717039
|