นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการแก้ปัญหารายได้เกษตรกรของรัฐบาลว่าที่ผ่านมาได้มีการออกมาตรการมาดูแลอย่างต่อเนื่อง ดังเห็นได้จากการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวและปาล์มที่ได้รับการอนุมัติจาก ครม. ไปแล้ว ยังจะมีการพิจารณามาตรการประกันรายได้ชาวสวนยางเป็นลำดับต่อไป และเมื่ออังคารที่ผ่านมา ครม. ได้เห็นชอบตามที่กระทรวงเกษตรเสนอในสองเรื่องคือ
1.การแก้ไข พ.ร.บ.กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร พ.ศ. 2542 ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับการบรรเทาภาระหนี้เกษตรกรทั้งระบบ การปรับแก้จะเป็นการให้อำนาจกองทุนฟื้นฟูฯ สามารถรับภาระชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ของเกษตรกรที่มีบุคคลค้ำประกันได้ด้วย จากเดิมที่ให้เฉพาะที่มีทรัพย์สินค้ำประกัน
2.การขยายระยะเวลาแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรตามโครงการปรับโครงสร้างและระบบการผลิตการเกษตร และโครงการแผนฟื้นการเกษตรออกไปอีก 5 ปี ซึ่งจะเป็นการต่อลมหายใจให้แก่เกษตรกร 3.4 หมื่นราย มากไปกว่านั้นครม.ยังได้เห็นชอบให้กระทรวงการคลังเบิกงบกลาง ปี 2562 จำนวน 10,000 ล้านบาทให้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ เพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงินในการจ่ายเงินชดเชยตามมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว
นางสาวรัชดา กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการยกระดับราคาสินค้าเกษตร คาดว่าจะได้เห็นสัญญาณที่ดีในปีหน้าจากการเร่งเดินหน้าเปิดตลาดต่างประเทศ เฉพาะสัปดาห์ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ได้เปิดตลาดในสองประเทศใหญ่คือจีนและอินเดียสำเร็จ โดยได้ลงนาม MOU ไทยกับจีนซื้อขายมันสำปะหลัง 2.68 ล้านตัน มูลค่ากว่า 1.8 หมื่นล้านบาท และ MOU ซื้อขายยางพารากับอินเดีย ยอดสั่งซื้อรวม 100,000 ตัน มูลค่า 7,500 ล้านบาท ไม้ยางพาราอีก 130 ล้านบาท และผลิตภัณฑ์ยางพาราอีก 1,370 ล้านบาท รวมยอดขายยางพาราได้ 9,000 ล้านบาท ด้วยการทำงานอย่างบูรณาการระหว่างกระทรวงเกษตร-พาณิชย์ตามแนวทางของรัฐบาล ในปีหน้าราคาสินค้าเกษตรหลักๆน่าจะสูงขึ้นเนื่องจากมีตลาดส่งออกเพิ่ม
ที่มา: สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น
https://www.innnews.co.th/politics/news_499096/ |