นายสไกร พิมพ์บึง รองเลขาธิการรักษาการในตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (กฟก.) เปิดเผยว่า การมีผู้แทนเกษตรกรเป็นกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ตาม พ.ร.บ.กองทุนฟื้นฟูฯ พ.ศ.2542 มาตรา 12 และมาตรา 13 กำหนดให้มีคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรมีองค์ประกอบ 3 ส่วน ได้แก่ 1.กรรมการโดยตำแหน่งที่มีนายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นรองประธาน 2.กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งจำนวน 11 คน และ 3.กรรมการที่เป็นผู้แทนเกษตรกรจำนวน 20 คน ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร และสหกรณ์เป็นผู้ลงนามแต่งตั้ง ผู้แทนเกษตรกรที่ได้รับเลือกตั้งจากสมาชิกองค์กรเกษตรกรใน 4 ภูมิภาค จำแนกเป็นผู้แทนภาคเหนือ 5 คน,ภาคกลาง 4 คน,ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 7 คน และภาคใต้ 4 คน
ทั้งนี้ตามคำสั่ง คสช. ที่ 26/2560 ลงวันที่ 18 พฤษภาคม 2560 มอบหมายให้คณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรเฉพาะกิจดำเนินการตามภารกิจ 3 เรื่องคือ 1.การแก้ไขปัญหาหนี้เร่งด่วน 2.การแก้ปัญหาภายในสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร 3.การได้มาซึ่งคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ซึ่งผู้แทนเกษตรกรในคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรเป็นองค์ประกอบส่วนหนึ่งของคณะกรรมการ จึงจะต้องจัดให้มีการเลือกตั้งผู้แทนเกษตรกรเพื่อเป็นกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ในวันที่ 16 มิ.ย.นี้
“ขอเชิญให้เกษตรกรสมาชิกทุกท่านออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งผู้แทนเกษตรกรในวันอาทิตย์ที่ 16 มิ.ย.นี้กันให้มากๆโดยนำบัตรประจำตัวประชาชน หรือใบขับขี่ หรือเอกสารที่ทางราชการออกให้ที่มีหมายเลขบัตรประชาชน 13 หลัก และรูปถ่ายที่สามารถใช้อ้างอิงได้ ยื่นแสดงตนต่อเจ้าหน้าที่ในหน่วยเลือกตั้งเพื่อจะใช้สิทธิเลือกตั้ง ซึ่งเกษตรกรสมาชิกสามารถลงคะแนนเลือกผู้สมัครได้ 1 คนเพื่อให้ได้ผู้แทนเกษตรกรเข้ามาเป็นปากเป็นเสียง ร่วมเสนอความคิดเห็น มีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายเพื่อพัฒนาศักยภาพของเกษตรกร ตลอดจนการกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาของเกษตรกรทั้งด้านหนี้สิน การพัฒนาและฟื้นฟูอาชีพเกษตรกรให้ตรงกับความต้องการของเกษตรกร และให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการแก้ไขปัญหาต่างๆให้กับเกษตรกร”
ที่มา: สยามรัฐ
https://siamrath.co.th/n/83959 |